รีวิวหนังไทย ไลโอโคตรแย้ยักษ์
รีวิวหนังไทย ไลโอโคตรแย้ยักษ์
การถือกำเนิดของบริษัทเนรมิตรหนังฟิล์ม พร้อมอุดมการณ์ในการผลักดันหนังไทยให้มีความหลากหลายถือเป็นความทะเยอทะยานที่พุ่งสวนทางทุกอคติของคนดูทั้งเรื่องการพูดถึงคนชายขอบใน ดูหนังฟรี ดราม่าเด็กช่างกลอย่าง ‘4 Kings อาชีวะยุค 90’ ที่ประสบความสำเร็จด้านรายได้เป็นอย่างดีในปีที่ผ่านมา และปีนี้เนรมิตรหนังก็เล่นใหญ่ด้วยการเปิดตัวโปรเจกต์ ‘I Am Monster’ ไปเมื่อวันที่ 7 เมษายนโดยมี ‘ไลโอ โคตรแย้ยักษ์’ ที่เรากำลังกล่าวถึงเป็นหัวหอกเข้าฉายก่อนเพื่อน
ดูเหมือนว่า ดูหนังออนไลน์ ไทยแนวมอนสเตอร์หรือสัตว์ประหลาดเป็นโซนที่น้อยครั้งจะได้เห็น และเมื่อคนไทยหลายส่วนเริ่มพูดคุยกันว่า อยากให้ประเทศไทยสร้างหนังให้มีความหลากหลาย หนังแนวมอนสเตอร์จากค่าย เนรมิตรหนัง ฟิล์ม น่าจะช่วยจุดประกายสิ่งนั้นให้บังเกิดขึ้นได้ เริ่มด้วยหนังสัตว์ประหลาดเรื่องแรก ‘Leio ไลโอโคตรแย้ยักษ์’ เรื่องราวที่ก่อเกิดขึ้นบนแผ่นดินอีสาน
จากจุดเริ่มต้นที่ดูธรรมดาของคนที่อยู่อาศัยในพื้นที่อันแห้งแล้ง สร้างกิจกรรมหาน้ำบาดาลขึ้น แต่มันกลับกลายเป็นการปลุกสัตว์ใหญ่ที่ไม่เคยออกมาทำร้ายผู้คนบนผืนดินให้ออกมาเพ่นพ่าน ทั้งยังเป็นสัตว์เลื้อยคลานประจำถิ่นอย่าง ‘แย้’ อีกต่างหาก งานนี้ ซีจีต้องมา และบทก็ต้องมาด้วย
เพราะการตายของผู้เป็นปู่ ทำให้เก้า (กอล์ฟ – พิชญะ นิธิไพศาลกุล จากหนังเรื่อง ‘คนปล้นวิญญาณ Reales’ และ ‘The Couple รัก ลวง หลอน’) แร็ปเปอร์หนุ่มที่เพิ่งลาออกจากค่ายเพลงผู้ไม่เคยกลับบ้านเป็นสิบปี ได้รู้สึกตัวเองเสียทีว่าถึงเวลาต้องกลับทุ่งตะวันแยง
รีวิวหนังไทย ไลโอโคตรแย้ยักษ์ หนังไทย
เขากับเจน (จีน่า – ณัฐชา เดอซูซ่า จากซีรีส์ ‘เป็ดไอดอล’ และ ‘รักชั้นนัย‘) น้องสาวกลับมาที่ จ.เลย เพื่อบอกลาคุณปู่เป็นครั้งสุดท้าย ก่อนจะได้พบกับ ฝน (ฟาง – ธนันต์ธรญ์ นีระสิงห์ สมาชิกวง FFK เคยเล่นหนังเรื่อง ‘สี่เส้า’) ยูทูบเบอร์สาวที่เคยสนิทกันอีกครั้ง
เมื่อได้รับรู้ว่า ฝน กำลังจะจัดการแข่งขันขุดบ่อบาดาลหาแหล่งน้ำใต้ดินเพื่อช่วยให้พื้นที่อันแห้งแล้งกันดารแห่งนี้ได้ชุ่มชื้นและมีน้ำใช้ โดยมีเงินรางวัลให้ถึง 1 ล้านบาทกับทีมที่หาน้ำได้ก่อน งานนี้ ทั้ง เก้า และ เจน จึงชักชวน โย (ปาล์ม – ศุภชัย สุวรรณอ่อน) ลูกมือของคุณปู่มาช่วยกันขุดหาน้ำบาดาล โดยที่เก้าไม่รู้ว่า ภารกิจคว้าเงินล้านเพื่อหาเงินเป็นทุนไปทำเพลงของเขานั้น จะกลายเป็นการปลุกสัตว์ประหลาดหน้าตาเหมือนแย้ยักษ์ให้ออกมาอาละวาดเช่นนี้
ตั้งแต่ได้ยินว่าจะมีโปรเจกต์ รีวิวหนังไทย หนังใหม่จากค่าย เนรมิตรหนัง ฟิล์ม ที่เป็นแนวมอนสเตอร์ก็รู้สึกชื่นชมและดีใจที่จะได้เห็นหนังมีความหลากหลายมากขึ้น เมื่อได้เห็นภาพในตัวอย่างก็รู้สึกได้ว่า ทีมงานดูจะตั้งใจทำซีจีกับเจ้าตัวแย้ยักษ์นี่เสียจริง ดูดีกว่าที่คิดมาก แต่ก็ยังตะขิดตะขวงใจกับมุมกล้องและสงสัยในตัวบทอยู่พอสมควร แต่ก็คิดว่า อยากให้กำลังใจทีมงานที่ตั้งใจจะสร้างอะไรแบบนี้ให้เกิดขึ้นกับวงการหนังไทย วันนี้ จึงขอเป็นอีกคนหนึ่งที่ได้เข้าไปดูหนัง
จุดเริ่มต้นของเรื่องคือการที่ปู่ตาย พระเอกแร็ปเปอร์จากกรุงมุ่งหน้ากลับบ้าน มาเจอกับยูทูเบอร์สาวที่จู่ๆ ก็ผุดโปรเจกต์เงินล้านให้กับผู้ขุดหาตาน้ำเจอ ทำให้พระเอกนำทีมร่วมแข่ง และให้บังเอิญว่าพื้นที่แห่งนั้นมีมอนสเตอร์อย่างโคตรแย้ยักษ์อาศัยอยู่ใต้ดิน กิจกรรมบนดินจึงรบกวนมัน สุดท้ายพวกเขาต้องเอาตัวรอดไปพร้อมๆ กับการหาน้ำใต้ดิน
รีวิวหนังไทย ไลโอโคตรแย้ยักษ์ หนังใหม่
ยูทูเบอร์สาวคนนั้น คือ ฟาง – ธนันต์ธรญ์ นีระสิงห์ หนึ่งในสมาชิก FFK – เฟย์ฟางแก้ว ที่ได้เจอกับหนุ่มแรปเปอร์คนบ้านเดียวกัน และรู้จักกันตั้งแต่สมัยยังเป็นเด็ก เขาคือ กอล์ฟ – พิชญะ นิธิไพศาลกุล หนึ่งในสมาชิกดูโอ กอล์ฟ-ไมค์ ที่เคยโด่งดัง หนุ่มหล่อสาวสวยจากวงการเพลงมาเจอกัน แถมอยู่ในหนังแนวสัตว์ประหลาดเสียด้วยอีก มันคงเป็นอะไรที่น่าสนใจไม่น้อย
แต่ทว่า โปรเจกต์ทุ่มทุนสร้าง 50 ล้านบาทเรื่องนี้ มีโดดเด่นเพียงซีจีโคตรแย้ยักษ์ที่ดูดีแม้จะมีลอยๆ อยู่บ้าง แต่กับบทนั้นยังนับว่าเป็นจุดด้อยอยู่มาก ทั้งความไม่สมเหตุผลในคำพูด ความคิด และการกระทำ แม้กับเรื่องราวก็ยังมีความน่าเชื่อถือน้อยกว่าที่ควรจะเป็น
ถ้ามองกันเฉพาะด้านบทหนัง ความจริงมันมีแง่มุมเรื่องความสัมพันธ์แทรกซึมอยู่เหมือนกันนะ แต่แค่ไม่ได้ขับเน้นให้สำคัญหรือหนักแน่นจนโดดเด่นออกมา โลเกชันของหนังก็เช่นกัน ด้วยความที่ต้องการชี้ว่าทุ่งตะวันแยงแห่งนี้แห้งแล้งไม่มีน้ำใช้เพาะปลูกจนมีแต่ดินแดงๆ จึงเป็นเหตุให้พวกเขาเลือกจะสร้างกิจกรรมแข่งขันหาน้ำใต้ดิน
แต่น่าเสียดาย นอกจากจะไม่มีมุมกล้องสวยๆ แล้ว หนังยังเน้นถ่ายในมุมเงยอีกต่างหาก งานภาพจึงขาดความสวยงามไปโดยปริยาย ด้านนักแสดงเอง ดูท่าพวกเขาก็คงทำดีที่สุดจากบทที่มีอยู่ คล้ายจะเป็นกึ่งด้นสดเสียด้วยซ้ำ อย่างที่กอล์ฟพยายามทำตอนเข้าฉากร่วมกับฟาง แต่ก็ดูเหมือนยิ่งไปเปิดแผลให้หนังเพิ่มเข้าไปอีก
เมื่อหนังไทยจะมีสัตว์ประหลาดยักษ์
รีวิวหนังไทยน่าดู กลับพยายามนำเสนอชีวิตของเก้าไปในทางสำนึกรักบ้านเกิด ก็กลายเป็นหนังคนละม้วนและยิ่งไปกันใหญ่เมื่อเขาและเจนเดินทางกลับบ้านเกิดที่จังหวัดเลย แล้วหนังพยายามโยงกลับไปฉากแฟลชแบ็กในอดีตที่เกี่ยวพันกับคุณปู่ที่เคยสอนเรื่องการใช้ชีวิตโดยอาศัยบทเรียนการขุดเจาะน้ำบาดาลรวมถึงการพบกันสมัยวัยเยาว์ของเก้ากับฝนเพื่อพยายามปูให้เราผูกพันกับเก้า เพื่อปูว่าเขามีความรู้มากพอจะเข้าแข่งขันในครั้งนีั้
และอีกจุดหนึ่งคือซีนดราม่าที่โยงมาจากแฟลชแบ็ก คือปมที่ทำให้เก้าหนีจากบ้านเกิดเพื่อไปเป็นศิลปินในกรุงเทพ ซึ่งตรงนี้ยอมรับเลยว่า กอล์ฟ-พิชญะ ให้การแสดงที่เราพอจะอยากเอาใจช่วยตัวเอกอยู่บ้าง ทั้งการแสดงความผิดบาป
ความโกรธและความน้อยใจปู่ของเขาที่แฟลชแบ็กพยายามปูมา แม้จะต้องยอมรับล่ะว่าการแคสติงนักแสดงในฉากแฟลชแบ็กทั้งตัวเก้าและฝนนี่แทบไม่มีอะไรเชื่อมโยงกับนักแสดงตอนโตเลยจนเหมือนฉากโฆษณาสำนึกรักบ้านเกิดที่มาแทรกอยู่ในหนังอย่างแปลกปลอม
อีกส่วนที่หนังอย่าง ‘ไลโอ’ พยายามนำเสนอคือเรื่องการเมืองและชนชั้นโดยใส่ตัวละครเสี่ยหมี ที่แสดงโดย พงศ์เทพ อนุรัตน์ เศรษฐีผู้มีอิทธิพลในวงการขุดเจาะเข้ามาพร้อมกับตัวละครสมทบอย่างผู้ว่าราชการจังหวัดที่ดูจะเป็นใจกับความหื่นของเสี่ยหมี
ไปติดตามผลงานหนังไทยกันได้เลย
ที่ต้องการเข้าร่วมการขุดเจาะครั้งนี้เพียงเพื่อจะใช้โอกาสนี้ใกล้ชิดกับฝนเท่านั้น ซึ่งส่วนนี้ทำให้เห็นเลยว่าหาก ‘ไลโอ’ ทะเยอทะยานกว่านี้ในด้านบทมันจะกลายเป็นหนังมอนสเตอร์ที่ผูกโยงเรื่องการเมืองชั้นดีได้แบบ ‘The Host’ ของบงจุนโฮได้เลยแต่หนังก็แตะแค่ผิวเผินจนน่าเสียดายไม่น้อย
ทีนี้จุดที่เป็นจุดบอดของหนังจริง ๆ คือการนำเสนอความโง่ของตัวละครได้อย่างไม่ชาญฉลาดนี่แหละครับ คือจริง ๆ หนังประเภทนี้ออกตัวก่อนว่าความโง่ของตัวละครคือต้นธารความสนุกอย่างหนึ่งนะครับ แต่ทีนี้นอกจากฉากความโง่ที่ตัวละครหมั่นทำให้ตัวเองถูกฆ่าแล้ว
อีกจุดที่ไม่น่าให้อภัยเลยคือการวางคาแรกเตอร์ให้ ‘ขายขำ’ที่ดูเหมือนหลุดจากหนังไทยยุค 90s ต้น ๆ ทั้งบทพูดที่ดูแปลกประหลาดหรือการกระทำชวนงงหลายอย่างโดยเฉพาะตอนอยู่ในสถานการณ์หน้าสิ่วหน้าขวานที่ตัวละครย้ำเหลือเกินให้เงียบ..แต่กลับโปรเจกต์เสียงกันออกมาราวกับจะไม่มีอะไรเกิดขึ้น
เรายังพอเห็นถึงความตั้งใจที่จะสร้างหนังไทยแนวสัตว์ประหลาดยักษ์ ทุ่มทนจ้างนักทำ CG มือดีๆ แห่งวงการมาช่วยสร้างแย้ยักษ์ให้ออกมาดูดีที่สุด [แม้ CG น้ำจะไม่ค่อยเท่าไหร่ก็ตาม] บวกด้วยซาวด์ประกอบที่ค่อนข้างดีเลยทีเดียว แต่ด้วยเพราะหนังมีจุดตั้งต้นที่ไม่ค่อยดีอย่างบทที่ไม่น่าเชื่อถือ ตัวละครหลายตัวน่ารำคาญ ส่งผลให้หนังที่ดูน่าเอาใจช่วยกลายเป็นหนังที่น่าเสียดาย ได้แต่หวังว่า ‘บึงกาฬ’ จะออกมาปังกว่านี้
โดยรวมแล้วต้องยอมรับว่า รีวิวหนังไทยน่าติดตาม ‘ไลโอ โคตรแย้ยักษ์’ ยังไม่ใช่งานหนังมอนสเตอร์ที่เราจะแนะนำได้ว่าเป็นหนังดูสนุกหรือยอดเยี่ยม (แม้เราจะแอบเชียร์ตอนเห็นโฉมแรกของมันก็ตาม) หรือกระทั่งงานซีจีที่อุตส่าห์พะยี่ห้อ Fat Cat Studio ก็ยังยอมรับว่าดูไปก็อดส่ายหัวไปไม่ได้ (ขออภัยด้วยที่ต้องพูดตรง ๆ นะครับ)
แต่ก็ยังคาดหวังกับงานชิ้นต่อไปของเนรมิตรหนังฟิล์มนะครับทั้ง ‘แสงกระสือ ๒’ หรือ ‘The 100’ ที่จะให้ความสำคัญกับบทภาพยนตร์มากขึ้นโดยเฉพาะการที่มันต้องพ้นกับดักว่าหนังไทยต้องขายตลก ที่กลายเป็นจุดทิ่งแทงให้หนังปฐมบทมอนสเตอร์เวิร์สเรื่องแรกของไทยกลายเป็นงานที่เราไม่อาจแนะนำให้ใครดูได้อย่างเต็มปาก
รายละเอียดเกี่ยวกับหนัง ‘Leio’
ชื่อภาพยนตร์ Leio / ไลโอโคตรแย้ยักษ์
กำกับ ชาลิต ไกรเลิศมงคล, ชิตพล เรืองกัลป์
เขียนบท
แสดงนำ กอล์ฟ – พิชญะ นิธิไพศาลกุล, ฟาง – ธนันต์ธรญ์ นีระสิงห์, จีน่า – ณัฐชา เดอซูซ่า, ปาล์ม – ศุภชัย สุวรรณอ่อน, เทพ – พงศ์เทพ อนุรัตน์
แนว/ประเภท Action, Adventure, Comedy, Fantasy
เรท น13+
ความยาว 109 นาที
ปี 2022
สัญชาติ ไทย
เข้าฉายในไทย 28 กรกฎาคม 2022
ผลิต/จัดจำหน่าย เนรมิตรหนัง ฟิล์ม, FatCat Studios, M Pictures
ไลโอโคตรแย้ยักษ์