รีวิวหนัง จอมขมังเวทย์ 2 ในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมามีภาพยนตร์ที่น่าสนใจอยู่เรื่องหนึ่งแถมเป็นภาพยนตร์ไทยที่อาเจ๊นัทจำตามอง และ อยากดูเป็นอย่างมากนั้นก็คือ “จอมขมังเวทย์ 2020” ผลงานจากผู้กำกับพี่ต้อม ปิยะพันธุ์ ชูเพ็ชร์ ที่อยู่ภายใต้การดูแลของสหมงคลฟิล์ม อินเตอร์เนชั่นแนล จอมขมังเวทย์ 2

โดยภาพยนตร์เรื่องนี้ทางพี่ต้อมเองได้อธิบายเอาไว้ว่า “มันไม่ใช่ภาครีเมค แต่เป็นภาคต่อที่เขาตั้งใจทำเอาไว้เมื่อ 15 ปีก่อน” ซึ่งใครที่กำลังจะไปดูภาพยนตร์เรื่องนี้อาเจ๊นัทขอแนะนำว่าให้ไปหาดูภาคแรกในชาแนล Youtube ของ “พระนครฟิลม์ Phranakornfilm” ได้นะคะ ดูหนังฟรี

 

 

เนื้อเรื่องใน “จอมขมังเวทย์ 2020” เป็นเหตุการณ์ต่อจากภาคแรกที่อ้างอิงตามเวลาจริงถึง 15 ปี โดยเรื่องราวถูกเล่าผ่านตัวละครที่ชื่อว่า “วิน” หนุ่มผู้ชื่นชอบวิชาต่อยมวยและใช้วิชานี้ในการหาเงินให้กับตัวเอง มีอยู่มาวันหนึ่งวินต้องเจอเหตุการณ์ที่เลวร้าย  จอมขมังเวทย์ 2 HD

รีวิวหนัง จอมขมังเวทย์ 2

เมื่อเขาและพ่อถูกลอบฆ่าจากกลุ่มคนปริศนา ทำให้วินได้เสียพ่อไป ส่วนตัวเองก็บาดเจ็บสาหัส เมื่อพักฟื้นเรียบร้อยแล้วเขาก็ได้ตัดสินใจฝึกฝน เรียนรู้วิชาด้านไสยเวทย์เพื่อเป็นเกราะป้องกันตัวและสืบหาข้อมูลว่า “ใครเป็นคนลอบฆ่าเขาและพ่อ”

แต่เมื่อเขาค้นหาความจริงก็พบว่า “ฆาตกรที่ฆ่าพ่อเขาก็ไม่ธรรมดา เพราะว่าเขาก็คือผู้ที่ถูกเรียกว่าจอมขมังเวทย์ในตำนาน” ในระหว่างนั้นโลกของเรามีกลุ่มคนผู้ใช้ความเชื่อมาหากินกับผู้คนที่หมดสิทธิ์หนทาง นั้นก็คือ ครูเมย์ และ ก็อต ผู้ที่คอยสนับสนุนอยู่ข้างๆ

แล้วทุกสิ่งทุกอย่างก็นำพาให้ผู้ชมได้รู้ว่า “ในยุคปัจจุบันโลกของเราผู้คนยังเชื่อในสิ่งลี้ลับและด้านไสยศาสตร์ว่าสิ่งเหล่านี้จะทำให้ชีวิตดีขึ้น” บทสรุปสุดท้ายจะเป็นยังไง วินจะต้องเผชิญหน้ากับจอมขมังเวทย์ในตำนานแล้วหาทางเอาชนะได้รึไหมต้องไปติดตามกันค่ะ ดูหนังฟรีออนไลน์

ส่วนตัวแล้วอาเจ๊นัทคิดว่าบทภาพยนตร์ใน “จอมขมังเวทย์ 2020” ต้องการนำเสนอให้เราเห็นว่า “โลกใบนี้แม้ว่าจะผ่านไปนานแค่ไหน หรือ ยิ่งใหญ่มากเพียงใด บางครั้งก็ต้องมีตัวช่วยที่มากกว่ากำลังและมันสมองอยู่ดี” ซึ่งจุดเด่นในเรื่องนี้น่าเสียดายที่ภาพยนตร์พยายามจะเล่าแต่ไปไม่สุดสักทางจริงๆ

 

รีวิวหนัง จอมขมังเวทย์ 2

 

บางเรื่องราวก็ไม่พูดถึงที่มาที่ไปสักเท่าไหร่ แต่ถ้ามองแบบลึกๆ การเล่าเรื่องก็ทำออกมาได้ดีไม่เลวร้าย ถ้าเพื่อนๆ ตามทันกับสิ่งที่ภาพยนตร์ต้องการปูทางให้เราเข้าใจนะ แต่ถ้าคนที่หลุดโฟกัสไปนิดเดียวอาจจะงงและไม่เข้า่ใจเลยค่ะ

นอกจากบทภาพยนตร์ที่ตำหนิไปเล็กๆ น้อยๆ แล้ว สิ่งต่อมานั้นก็คือ “CG” ที่ยังรู้สึกว่าทำไม่ดีเท่าที่ควร ทำให้ฉากที่ต้องใช้ Effect อลังการๆ ดูบ้านๆ ไปเลย ตรงข้ามกับฉากคิวบู๊ที่ทำออกมาได้สนุกมาก เรียกว่าเหมือนกำลังดู “คมแฝกเวอร์ชั่นภาพยนตร์” เลยแหะ ( แต่ก็นะนักแสดงก็มาจากเรื่องเดียวกันเลยหว่า )  จอมขมังเวทย์ 2 Netflix

รีวิวหนัง จอมขมังเวทย์ 2 หนังไทยน่าดู

มาพูดถึงนักแสดงกันหน่อยค่ะ บทนำอย่าง “วิน” ที่ได้ หมาก ปริญ สุภารัตน์ นักแสดงคุณภาพที่บอกตรงๆ ว่าตอนแรกแอบกังวนว่าเขาจะเหมาะกับบทบาทตัวละครนี้รึเปล่า แต่พอเอาเข้าจริงๆ ตัวหมากทำได้ดีมากค่ะ โดยเฉพาะคิวบู๊ ดูเป็นธรรมชาติมากๆ ไม่ติดขัดอะไรเท่าไหร่เลย ตามมาด้วย “ก็อด” ที่ได้ ก๊อต จิรายุ ตันตระกูล หนึ่งในนักแสดงคุณภาพอีกคนที่ทั้งสองเคยแสดงละครแนวบู๊อย่างเรื่องคมแฝกด้วยกันมาก่อน บอกเลยว่า “ดีงามไม่แพ้หมากเลยค่ะ”

มาพูดถึงตัวละครสาวๆ กันบาง น้องคิตตี้ ชิชา อมาตยกุล พอขึ้นจอใหญ่บอกตรงๆ ว่า “ดูสวยมากๆ” เห็นแล้วอาเจ๊นัทยังชมไม่ขาดปากเลย ส่วนน้องแพร์ พิชชาภา พันธุมจินดา ก็เช่นเดียวกันค่ะ ไม่แตกต่างเลย ที่ทั้งสวยและมีฉากเซ็กซี่ๆ ให้หนุ่มๆ ที่ไปดูแอบหลงรักน้องและการแสดงได้ไม่ยาก เอาเป็นว่าหนุ่มๆ ที่ไปดูต้องเลือกแล้วละว่าจะชอบน้องคนไหน ดูหนังฟรี

สุดท้ายนี้ก็คือตัวละครจอมขมังเวทย์ในตำนานอย่าง “นก ฉัตรชัย เปล่งพานิช” ที่ภาคนี้ก็ได้กลับมารับบทเป็น “อิทธิ” อีกครั้ง แถมยังจะต้องเผชิญหน้ากับผู้ใช้ไสยเวทย์รุ่นใหม่ ก็เรียกว่าฉากต่อสู้ของพวกเขาก็สนุกและยังมีคำพูดที่ให้แนวคิดแก่ตัวละครหลักภายในภาพยนตร์ด้วย อีกทั้งยังเป็นภาพยนตร์ที่ได้แสดงร่วมกับ “นก สินจัย เปล่งพานิช” ผู้เป็นภรรยาแท้ๆ อีกด้วยนะ

 

รีวิวหนัง จอมขมังเวทย์ 2

รีวิวหนัง จอมขมังเวทย์ 2 หนังแฟนตาซี

ถ้าให้อาเจ๊นัทสรุปว่าภาพยนตร์เรื่อง “จอมขมังเวทย์ 2020” ควรไปดูไหม แนะนำว่าไปดูเถอะค่ะ สนุกมากจริงๆ แม้ว่าในหลายๆ ส่วนอย่างบทภาพยนตร์ที่อาจจะขาดความสมเหตุ สมบทไปบ้างก็ตาม การตัดต่อที่แว่บไปแว่บมา ทำให้ผู้ที่ดูอาจจะตามไม่ทัน หรือ CG ที่ยังไม่ดีพอ แต่นั้นไม่ใช่สาเหตุหลักที่คุณจะไม่ดูภาพยนตร์เรื่องนี้หรอกค่ะ จอมขมังเวทย์ 2 เต็มเรื่อง

เพราะถ้าให้อาเจ๊นัทพูดก็คือ “มันคือภาคต่อจากภาพยนตร์เรื่องจอมขมังเวทย์เมื่อ 15 ปีที่แล้ว ภาคนี้จะมาช่วยขยายเรื่องราวว่าเมื่อโลกเปลี่ยนไป ยุคสมัยที่เปลี่ยนแปลง ความเชื่อก็ยังคงอยู่กับคนเราอยู่เหมือนเดิม” น่าเสียดายที่พี่กอลฟ์ อัครา อมาตยกุล ผู้รับบทเป็น “สันติ” หนึ่งในผู้ที่มีวิชาอาคมแข็งแกร่งไม่แพ้อิทธิไม่ได้มาร่วมแสดงด้วย สาเหตุเป็นเพราะพี่กอลฟ์เองได้ลาวงการเป็นนักแสดงเป็นที่เรียบร้อยแล้ว

หลังพ่อถูกฆ่าตาย วิน (ปริญ สุภารัตน์) ไอ้หนุ่มนักมวยสุมไฟแค้นออกตามล่าตัวฆาตกร จนได้พบกับองค์กรพลังจักรวาลที่นำโดย ครูเมย์ (สินจัย เปล่งพานิช) ไลฟ์โค้ชสาวใหญ่ผู้มีเบื้องหลังเป็นผู้ค้าวัตถุไสยเวทย์ และ ก็อต (จิรายุ ตันตระกูล) มือขวาครูเมย์ที่ช่วยตามล่าสินค้า โดยทั้งคู่ได้ตกเป็นเป้าหมายสำคัญของ วิน รีวิวหนังไทยน่าดู

ที่หวังออกตามล่าฆาตกรที่ฆ่าพ่อเขาเพียงเพื่อชิงเหล็กไหลวัตถุมงคลมากพุทธคุณ และสงครามอาคมครั้งนี้ได้นำ หมวดการ์ตูน (ชิชา อมาตยกุล) มือปราบสาวไฟแรงที่ต้องมาต่อกรกับสงครามมนตร์ดำครั้งนี้ แต่เมื่อศึกเริ่มสะเด็ดน้ำ อิทธิ (ฉัตรชัย เปล่งพานิช) อดีตผู้กองจอมขมังเวทย์ในตำนานก็ปรากฎตัว แต่สงครามไสยศาสตร์คราวนี้จะจบลงเช่นไรต้องติดตาม

 

 

หลังทิ้งห่างจากภาคแรกไปถึง 15 ปี ต้อม ปิยะพันธุ์ ชูเพ็ชร์ ได้กลับมารื้อปัดภาคต่อหนัง จอมขมังเวทย์ อีกครั้ง โดยสิ่งที่เราสังเกตได้เลยคือการเก็บเล็กผสมน้อยเหตุการณ์บ้านเมืองต่าง ๆ เอามาสอดแทรกไว้ในหนังเสมือนเป็นบทบันทึกประวัติศาสตร์ด้านความเชื่อความศรัทธาหรืองมงายย่อม ๆ ทั้งการบูมของธุรกิจไลฟ์โค้ช ธุรกิจวัตถุมงคลที่มีตลาดระดับหลายพันล้าน จอมขมังเวทย์ 2 pantip

หรือแม้กระทั่งการล้อเลียนเหตุการณ์ที่ พลตำรวจเอก ศรีวราห์ ไหว้ นายเปรมชัย (คดีฆ่าเสือดำ) ก็กลายเป็นกลไกหลักในการสร้างให้ผู้ร้ายในหนังดูเหนือมนุษย์และกฎหมายเอื้อมมือไม่ถึง แม้ในภาพรวมต้องยอมรับว่าหนังเองมีจุดบกพร่องแบบ เอาปากกาแดงวงคำผิดก็คงแดงเถือกเป็นหย่อม ๆ ทั้งการไม่อธิบายที่มาที่ไปหรือให้เราได้รับรู้ปมลึก ๆ ในใจตัวละคร

หรือกระทั่งการไม่อธิบายกระทั่งการใช้พลังคุณไสย จนคนไม่เคยดูภาคแรกอาจงงกับตรรกะการต่อสู้เชิงอาคมในเรื่องได้ แต่หนังก็เอาตัวรอดและกลบข้อด้อยด้วยพลังของนักแสดงและการอัดฉากบู๊ให้ตื่นเต้นมาแบบแทบไม่ได้พักเลย

สำหรับพลังของนักแสดงต้องยอมรับว่า ตั้งแต่ตัวอย่างหนังเราจะเห็นการ “ปล่อยของ” ของเหล่านักแสดงไม่ว่ารุ่นใหญ่อย่างพี่นก ฉัตรชัย หรือ พี่นก สินจัย ที่แทบไม่ต้องห่วงเรื่องฝีมือกันแล้ว แต่ที่น่าจับตามองมาก ๆ คือเหล่านักแสดงรุ่นใหม่จากละครช่อง 3 ทั้ง หมาก-ปริญ ที่ต้องยอมรับเลยว่าการแสดงแบบภาพยนตร์ทำให้หมากได้ใช้แอ็กติงที่ลึกกว่าละครได้อย่างน่าชื่นชม แม้ว่าในภาพรวมคนที่ขโมยซีนหนังทั้งเรื่องกลับตกเป็นของ ก็อต จิรายุ ดูหนังฟรี

 

หนังไทยแนวแฟนตาซี ไสยศาสตร์ มนต์ดำ

ที่ปล่อยให้ความคลั่งของตัวละครพาเขาไปสุดทางมากกว่า ติดก็แต่ว่าด้วยความโดดเด่นของรูปร่างหน้าตาเลยทำให้ความลับที่หนังต้องการปกปิดกลายเป็นเห็นแว่บแรกก็รู้แล้วว่าคนเดียวกันเท่านั้นเอง ส่วนคิตตี-ชิชา ก็พิสูจน์แล้วว่าใบหน้าสดไม่อาจทำให้เสน่ห์เธอลดลงได้เลย จอมขมังเวทย์ 2 เรื่องย่อ

มิหนำซ้ำยิ่งมองเรากลับหลงรักกระทั่งขี้แมงวันบนหน้าเธอเสียอีก ส่วนการแสดงและน้ำเสียงที่ดูเป็นตำรวจสาวแกร่งก็เย้ายวนได้แบบไม่น่าเชื่อเลยล่ะ เสียดายก็แต่ แพร์-พิชชาภา พันธุมจินดา สาวสวยมากความสามารถจากช่อง 3 ที่หนังใช้เธอได้ไม่คุ้มค่าเท่าไหร่นัก

ด้านฉากแอ็กชัน แม้หนังจะดูออกว่าได้ทุนสร้างที่จำกัดจำเขี่ย แต่ต้อม ปิยะพันธุ์ ก็อุตส่าห์ใช้ความครีเอทีฟมานำเสนอมุมมองแอ็กชันใหม่ ๆ ได้อย่างน่าชื่นชม แม้ว่าฉากต่อสู้ประชิดตัวจะใช้การตัดต่อมาช่วยเยอะไปหน่อยจนขาดความดิบอันน่าตื่นเต้น แต่ฉากไสยเวทย์ต่าง ๆ ก็จัดเต็ม

แม้ว่างานซีจีเราจะสู้ฮอลลีวูดยังไม่ได้แต่ถ้านับจาก ซีจีควายธนู ในหนังภาคแรกแล้วก็ถือว่ามาไกลทีเดียว แถมต้อมยังเหมือนยำใหญ่องค์ประกอบแบบฮอลลีวูดมาจัดให้คนไทยแบบถึงเครื่องโดยเฉพาะสัตว์ไสยเวทย์ที่แทบมีมูฟเมนต์การปรากฏตัวแบบนึกถึง ทรานส์ฟอร์มเมอรส์ ขึ้นมาแบบช่วยไม่ได้เลยหละ  ดูหนังฟรีออนไลน์

 

ไปติดตามกันได้เลยรับรองสนุกแน่นอน

โดยภาพรวมแล้ว จอมขมังเวทย์ 2020 ถือเป็นหนังไทยที่ให้ความบันเทิงได้ไม่ขี้เหร่เลย บทหนังมีองค์ประกอบหลายอย่างที่น่าสนใจ แม้ว่าจะมีช่องโหว่ประปรายแต่ก็ทดแทนด้วยฉากแอ็กชันและพลังการแสดงอันเข้มข้น แนะนำอย่างเดียวคือควรดูภาคแรกก่อนเข้าชมจะได้ไม่งงกับตรรกะด้านอาคมในเรื่องครับ จอมขมังเวทย์ 2 รีวิว

15 ปีคือระยะเวลาที่หนัง “จอมขมังเวทย์ 2020” ได้ทิ้งช่วงห่างจากเหตุการณ์ในหนังภาคแรก โดยเรื่องราวในภาคนี้ไปโฟกัสอยู่ที่ตัวละครใหม่อย่าง วิน (หมาก-ปริญ สุภารัตน์) ลูกชายเจ้าของค่ายมวยดังย่านนนทบุรี ผู้รอดชีวิตเพียงคนเดียวหลังจากที่พ่อของเขาถูกลอบสังหารจากฆาตกรลึกลับ เพื่อชิงเครื่องรางของขลังที่พ่อติดตัวไว้ตลอดเวลา จากเหตุการณ์ดังกล่าวทำให้วิน ตัดสินใจกระโจนเข้าสู่การสักยันต์และนำ “ของ” ตามความเชื่อโบราณเข้ามาใส่ในตัวเอง

จอมขมังเวทย์ 2020 ติดเครื่องความตื่นเต้นให้คนดูอย่างรวดเร็ว ด้วยการซัดฉากแอ็คชั่น การต่อสู้ในสไตล์หมัดมวยมือเปล่ากันตั้งแต่ฉากแรก ใส่จุดพลิกผันให้ตัวละครอย่างวินกระโจนเข้าสู่ด้านมืด แม้ว่าผู้ชมจะไม่ได้เห็นใบหน้าของฆาตกร แต่ด้วยองค์ประกอบแวดล้อมของหนังก็เอื้อให้คนดูคาดเดาได้ทันทีว่าคนร้ายของเรื่องคือใคร รีวิวหนังไทย

แต่ถึงผู้ชมจะรู้ตัวคนร้ายอยู่แล้ว หนังก็ยังดำเนินต่อไปได้อย่างเปี่ยมอรรถรส เมื่อ จอมขมังเวทย์ 2020 พาคนดูไปสำรวจความเชื่ออันหลากหลายไม่ว่าจะเป็น แนวคิดของคนรุ่นเก่าที่เชื่อว่า ต่อให้คนเรามีความสามารถด้วยความพยายามมากแค่ไหน “ไสยศาสตร์” เป็นอีกหนึ่งตัวช่วยสำคัญที่จะผลักดันให้มนุษย์มุ่งหน้าสู่ความสำเร็จได้มากขึ้นเท่านั้น สวนทางกับคนรุ่นใหม่อย่างวิน ที่มองว่าความสำเร็จของคนยุคปัจจุบันคือความมุมานะพยายามด้วยตัวเองเท่านั้น

หนังยังความเชื่อสำหรับคนยุคปัจจุบัน อันว่าด้วยพลังของจักรวาล พลังบวกจากสิ่งรอบตัวและการโอบรับความสุขที่เกิดขึ้น ถูกนำเสนอผ่านองค์กรของครูเมย์ (นก-สินจัย เปล่งพานิช) ซึ่งเต็มไปด้วยบรรดาผู้ที่ศรัทธาในแนวคิด “เราต้องคิดว่าเราคือสุดยอด แล้วเราก็จะสุดยอด นี่คือกฎของจักรวาล” อย่างมากมาย จนนำไปสู่การบูชาเครื่องรางของขลังที่ทำกำไรให้กับองค์กรนี้อย่างมหาศาล

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *