รีวิวหนัง ทวงคืน

รีวิวหนัง ทวงคืน

เมื่อเรากำลังจะเสียสิ่งบางสิ่งที่รักมากที่สุดไป เราจึงอยากจะทวงคืน ดูหนังออนไลน์  พบกับหนังไทยเรื่องล่าสุดจากฝีมือการกำกับของ แดน – วรเวช ดานุวงศ์ ที่ว่าด้วยเรื่องราวความระทึกขวัญครั้งใหม่ที่เกินความคาคเดาและพร้อมให้คุณผวากับสิ่งที่เหนือธรรมชาติใน

“ทวงคืน” ที่มี แดน – วรเวช ดานุวงศ์ จับคู่กับ แพทตี้ – อังศุมาลิน สิรภัทรศักดิ์เมธา และเพื่อนซี้อย่าง บีม – กวี ตันจรารักษ์ รับบทนำของเรื่อง และสมทบด้วยนักแสดงมากฝีมืออย่าง สมชาย เข็มกลัด,เกียรติศักดิ์ อุดมนาค และ เศรษฐพงศ์ เพียงพอ

เมื่อคู่รักยูทูบเบอร์ที่หลายคนอิจฉามากที่สุดกำลังดำเนินมาถึงตอนจบ! กับการบอกเลิกออกสื่อที่จะช็อกสนั่นประเทศ พร้อมการผจญภัยสุดวายป่วงและสยองพองขนที่จะเกิดขึ้นรอบตัวพวกเขา แล้วงานนี้ใครจะอยู่ ใครจะไป และภารกิจ ทวงคืนเต็มเรื่อง แพทตี้ให้คนทั้งประเทศครั้งนี้จะสำเร็จจริงๆ หรือไม่

จากนักร้องบอยแบนด์แห่งยุค กลายมาเป็นนักแสดงหนุ่มเจ้าเสน่ห์ และทุกวันเขาก็กลายมาเป็นอีกหนึ่งคนสร้างหนังที่คลอดผลงานใหม่ ๆ ออกมาเสริมวงการหนังไทยเสมอ และนี่คือผลงานล่าสุดของ “แดน วรเวช” ที่ยังรักษาคอนเซ็ปต์แนวคิดและความเป็นตัวของตัวเขาเองเช่นเดิม

รีวิวหนัง ทวงคืน หนังดราม่า

รีวิวหนัง ทวงคืน หนังไทย

กลั่นกรองออกมาเป็น “ทวงคืน Fearless Love” หนังรักในท่วงทำนองของความเฮี้ยน ที่สารภาพตรง ๆ ว่าตอนแรกที่หนังโปรโมตออกมา ก็ยังสับสนอยู่ว่าจะเป็นหนังรัก หนังตลก หรือหนังบู๊ แต่สุดท้ายแล้ว มันคือหนังผี

เรื่องราวของคู่รักยูทูบเบอร์ พลอย กับ ดิน คู่รักที่หลายคนอิจฉามากที่สุดในประเทศ แต่ความรักของพวกเขากำลังดำเนินมาถึงตอนจบ! กับการบอกเลิกออกสื่อที่จะช็อกสนั่นประเทศ เมื่อรับงานสุดท้ายจากสปอนเซอร์ที่จำเป็นต้องแกล้งรักหลอน ๆ ก่อนจะตั้งใจบอกเลิกกันไปเนียน ๆ ในคลิปสั่งลา และนั่นก็คือจุดเริ่มต้นของการผจญภัยสุดวายป่วงและสยองพองขนที่จะเกิดขึ้นรอบตัวพวกเขา

ก็อย่างที่เกริ่นเอาไว้ตั้งแต่แรกว่า  ดูหนังฟรี  ทวงคืน เป็นหนังที่ทำให้เรารู้สับสนเล็ก ๆ ว่าตกลงมันคือหนังอะไรกันแน่ ตัดทีเซอร์ออกมาทีแรกเหมือนจะเป็นรอมคอม หนังออกมาอีกตัวมีกลิ่นหนังบู๊ แต่พอใบปิดโผล่ออกเท่านั้น สรุปว่าเป็นหนังผี เป็นหนังที่แกงฟิลลิ่งคนดูได้ตั้งแต่ยังไม่ได้ออกฉาย และผลลัพธ์ที่ออกมานั้น…ไม่แกง แต่เกือบจะกลายเป็นความเละเทะปะปนทนดูไปตลอดความยาว 2 ชั่วโมงของเรื่องที่แสนฟุ่มเฟือยเกินไป

แน่นอนว่า แดน วรเวช มารับหน้าที่ทั้งกำกับและเขียนบทหนังเรื่องนี้เอง โดยเขาหยิบเอาคอนเซ็ปต์ที่สังคมมักจะแอบแซวเขาเกี่ยวกับความสัมพันธ์ระหว่างแฟนสาวในชีวิตจริง อย่าง “แพทตี้ อังศุมาลิน” ที่เอาจริง ๆ นะ แค่การคิดหยิบเอาประเด็นนี้มาชูเป็นหนังก็ถือว่าไอเดียบรรเจิดดีแล้ว เป็นอะไรที่ท้าทายและเล่นกับสังคมกลุ่มหนึ่งได้อย่างน่าลิ้่มลอง เพียงแต่การตีโจทย์และนำเสนอของหนังจะออกมาเป็นอย่างไรเท่านั้นแหละ

รีวิวหนัง ทวงคืน หนังดี

รีวิวหนัง ทวงคืน หนังดี

ซึ่งผลสุดท้ายก็คือ ทวงคืน ตัวอย่าง คือหนังที่หยิบเอาประเด็นดังกล่าวมาใช้ได้แทบจะไม่ทำให้เกิดประโยชน์ใด ๆ สุดท้ายมันก็เป็นแค่คำโปรโมตของหนังคำเดียวเท่านั้น เพราะเนื้อหาในหนังได้ฉีกไปอีกแทบ เต็มไปด้วยส่วนที่ขาด ๆ เกิน ๆ

บางจุดก็เอ่อล้นเจิงนอง กับจังหวะที่ใส่เข้ามาแบบทีเล่นทีจริง ไม่สามารถหาจังหวะไหนที่จะหัวเราะได้เต็มสูบ หรือซึ้งสะกิดใจได้เลยสักเลย กลายเป็นหนังที่เต็มไปด้วยความสะเปะสะปะ ใส่กลิ่นอาย (tone) และทิศทาง (setting) ไปทางสากล แต่ไม่นำไปสู่ปลายทางแห่งความสำเร็จได้สักทาง

งานกำกับและดีไซน์ต่าง ๆ ของทวงคืนนั้น ถือว่ายังให้ผ่าน ออกแบบมาได้ค่อนข้างพอใจ แต่หนังมาตกม้าตายทุกครั้งกับการใส่จังหวะที่ประดักประเดิดตลอดทั้งเรื่อง ซ้ำร้ายคาแรกเตอร์ของแต่ละตัวละครก็ช่างบิ้วท์ทำให้ดูน่ารำคาญใจมาก ๆ

จะบอกตามตรงเลยว่า รีวิวหนังไทยใหม่ๆ ช่วงครึ่งแรกของหนังนั้นเหมือนเป็นการจับคนที่เอาแต่ใจตัวเอง ทั้ง 3-4 คนมาใส่เอาไว้รวม ๆ กัน แล้วก็เถียง ๆ คิด ๆ ไปคนละทาง ยิ่งอยู่ในสถานการณ์ขับขันด้วยแล้ว แทนที่จะบิวท์อารมณ์ให้น่ากลัวกลับกลายเป็นน่ารำคาญแทน

รวมรวบทุกอารมณ์ไว้ในเรื่องเดียว

แต่ก็ยังดีที่หนังได้ทีมนักแสดงที่ช่วยเอาไว้มาก ๆ โดยเฉพาะ แดน-แพทตี้ ที่คือคู่รักในชีวิตจริงอยู่แล้ว เขารู้จังหวะและการเข้าหาทางแสดงที่ดีของกันและกัน ทำให้ทุกอย่างดูไหลลื่นดี (ไม่นับอินเนอร์ที่น่ารำคาญของตัวละครที่ทั้งคู่ได้รับนะ)

โดยเฉพาะในท้าย ๆ กับฉากอารมณ์ที่ทั้งสองผลัดกันสื่อสารกันไปมา ถือว่าทำได้ค่อนข้างดี และน่าจะเป็นส่วนที่ดีที่สุดในหนังเรื่องนี้แล้ว แต่ก็น่าเสียดายว่าจุดดีเพียงเล็กน้อยเท่านี้นั้น ไม่สามารถลบล้างความสะเปะสะปะของหนังลงไปได้ ทวงคืนรีวิว

ขณะที่ “บีม กวี” ที่ถือว่ากลับมาขึ้นจอใหญ่เล่นหนังอีกครั้งในรอบหลายปี ก็มาด้วยบทที่เหมือนมาเป็นตัวเสริมที่จริง ๆ ไม่ต้องมีก็ได้ บางจุดก็ดูไปได้กับแคสติ้งของ แดน-แพทตี้ แต่บางจุดจะใส่เข้ามาเป็นเชื่อมก็ยังดูโดด ๆ และขัดแย้งชอบกล แม้จะใส่คาแรกเตอร์ของเขามาให้เป็นอีกตัวละครที่มีมิติอยู่ไม่น้อย แต่มันยังดูไม่ค่อยเข้ากับหนังเรื่องนี้ จะว่าเป็นส่วนเกินของหนังก็ไม่ใช่ แต่ก็ยังเป็นบทบาทที่ไม่เข้ากับหนังทั้งเรื่องนี้อีกอยู่ดี

เอาเป็นว่า..เราสรุป รีวิวหนังไทยน่าดู ให้ทุก ๆ คนได้ทราบว่า ทวงคืนเป็นหนังผีแกมตลกนะทุกคน ใส่ปมความรักซึ้ง ๆ เข้ามาบางหน่อย โดยภาพรวมนั้นยังถือว่าหนังไม่ได้มอบรสชาติที่อร่อยสักเท่าไหร่นัก แต่ก็ยังพอทานได้ แค่อาจจะต้องฝืนกลืนลงท้องไปสักนิด เพราะด้วยการหยิบเครื่องปรุงและวัตถุดิบต่าง ๆ เข้ามาอย่างมากมายของหนังเรื่องนี้ ทำให้รสชาติยังไม่จัดจ้านและถึงที่สุดเพียงพอ เดี๋ยวหวาน เดี๋ยวเค็ม เดี๋ยวเผ็ด แบบสลับไปมาตลอด 2 ชั่วโมง

ไปลองติดตามรับชมกันได้เลย

แม้ว่าการแสดงของทีมนักแสดงทั้งหมดจะค่อนข้างดีตามมาตรฐาน แต่กระนั้นก็ยังไม่สามารถช่วยยกระดับให้ ทวงคืน pantip หลุดพ้นออกจากตราบาปของจังหวะหนังที่เกือบจะเละเทะไปได้ แม้ว่าหนังจะพยายามสื่อสารในความหมายของชื่อหนังอยู่เรื่อย ๆ แล้วก็ตาม แต่ก็ยังเป็นข้อความที่ยังไม่สามารถซื้อใจผู้ชมได้อยู่ดี และค่อนข้างเบาบางและความโดดเด่นไปสักหน่อย ก็บริโภคได้…แต่น่าเสียดายที่ไม่มีอะไรให้น่าจดจำเลย

เป็นหนังที่โผล่มาแบบไม่มีปี่มีขลุ่ย จู่ ๆ ก็มีการโปรโมทหนังเรื่องนี้อย่างงง ๆ ไม่รู้เรื่องราว ไม่รู้อะไรเกี่ยวกับหนังเรื่องนี้เลย ขนาดดูตัวอย่างก็ยังไม่รู้ว่าตกลงหนังมันเกี่ยวกับอะไรกันแน่ มันดูจับฉ่ายมาก เป็นหนังผี หนังรัก หนังตลก ซึ่งพอได้ดูแล้วก็น่าผิดหวังจริง ๆ

หนัง ทวงคืน นักแสดง เป็นเรื่องราวเกี่ยวกับคู่รักที่ไม่รักกันแล้ว แต่ดันเป็น Youtuber ที่ต้องมารับถ่ายคลิปทำคอนเทนต์คู่รักด้วยกันอีก จนเรื่องราวมันจับพลัดจับผลูมาเจอไลฟ์โค้ช และนำพาไปพบกับหมู่บ้านสุดสยองที่ทั้งสามกำลังโดนทวงคืน!

ยอมรับว่าผิดที่เราส่วนนึงที่คาดคิดว่าหนังจะออกมาในอีกรูปแบบ จะเป็นแบบหนังโรแมนติกคอเมดี้ที่เป็นเรื่องราวระหว่างแดนกับแพทตี้ อารมณ์แบบ 32 ธันวา หรือ ส.ค.ส. สวีทตี้อะไรแบบนั้น แต่…มันดันออกมาเป็นแบบนี้ อะพอเราจับทางหนังได้ยอมรับตัวหนังว่าเป็นแบบนี้มันก็ยังไม่เวิร์คอยู่ดี

หนังมันมีความพยายามสูงมากในหลาย ๆ ด้าน อย่างแรกเลยคือเป็นหนังที่พยายามแบบพยายามเหลือเกินที่จะให้มันตลก ประดิษฐ์ถ้อยคำ การแสดง มุกต่าง ๆ เพื่อให้มันตลก แต่ประเด็นคือมันไม่ตลกไง มันตลกกับความไม่ตลกของหนังเรื่องนี้นี่แหละ หนังพยายามจะผสมผสานหลากหลายแนวเข้ามาด้วยกัน แต่มันไม่ดีสักอย่างเลย ทวงคืน เต็มเรื่อง

หนังมันจับฉ่ายมากเหมือนอยากใส่อะไรก็ใส่ ไม่ได้คำนึงที่บท การส่งต่อเรื่องราว การปูเรื่องราว จังหวะต่าง ๆ มันพังมาก คือ หนังเรื่องนี้พร้อมจะเกิดทุกอย่างได้ทุกเมื่อ มันก็ดำเนินเรื่องไปแบบนี้จนจบเลย มันจะมีความอิหยังวะตลอดทั้งเรื่อง จากความพยายามเหล่านั้น กลายเป็นความน่าเบื่อจนมันน่ารำคาญสำหรับเราไปเลย หนังความยาวถึง 2 ชั่วโมงนิด ๆ แต่ระหว่างทางกลับไม่มีอะไรจับต้องได้เลย

ตามมาด้วยความพยายามในการแสดง กับการแสดงนี่เล่นใหญ่มากถึงมากที่สุด เล่นใหญ่กว่าละครเวที เล่นใหญ่แบบมองจากดวงจันทร์ก็เห็นอะ คือเข้าใจว่าอยากถ่ายทอดให้ออกมาเป็นการแสดงแบบโอเวอร์แอ็คติ้ง ใหญ่ ๆ แต่เล่นแข็งมาก แข็งจนเราไม่รู้สึกต่อติดกับเรื่องราวและตัวละครไหน ๆ ในเรื่องเลยแม้แต่น้อย ยิ่งแสดงให้มันตลก รับส่งมุกให้มันตลก มันยิ่งกลายเป็นไม่ตลกเสียมากกว่า พอมาพาร์ทจริงจัง ยิ่งแล้วใหญ่ ทั้งเรื่องการแสดงที่ดูจริงและธรรมชาติที่สุดคือฉากสุดท้ายของแดนกับแพทตี้

งานด้านโปรดักชั่นก็เหมือนจะเวิร์คแต่ก็ไม่เวิร์ค แสงสีเหมือนจะสวยแต่หลายซีนมันก็ฉูดฉาดจนเกินไป บางฉากก็มืดเกินจนแทบมองอะไรไม่เห็น มุมกล้องต่าง ๆ ก็มีการใช้มุมกล้องปกติ สลับกับมุมมองผ่านกล้อง Gopro หรือผ่านกล้องมือถือ ที่หลายฉากก็ไม่มีความจำเป็นต้องใช้เลยด้วยซ้ำ รีวิวหนังไทยน่าติดตาม

ใครที่จะไปเสพความหล่อเหลาของแดนหรือความน่ารักของแพทตี้ ก็แทบจะไม่มีฉากให้ชวนเขินชวนฟินหรือเซอร์วิสแฟนหน่อยเลย มันไม่ได้จริง ๆ อะ ที่โอเคที่สุดคงจะเป็นเพลงประกอบ กับเพลง ตลอดไปแสนสั้นที่ขับร้องโดย แดน รวมถึงเพลง ทวงคืน ของ แพทตี้ ก็น่ารักดี เท่านั้นแหละ

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *