รีวิวหนัง อโยธยา มหาละลวย
รีวิวหนัง อโยธยา มหาละลวย
บ้านเรามีหนังไทยหลายเรื่องแย่งกันเข้าฉาย ส่วนหนึ่งอาจเพราะอัดกันมาจนต้องขยับมาฉายชนในช่วงเดียวกัน หนึ่งในนั้นคือ หนังไทยที่อิงประวัติศาสตร์เบาๆ แต่เน้นเล่าเรื่องรักเป็นหลัก ดูหนังออนไลน์ เรื่องนี้ อโยธยา มหาละลวย มีชื่อฝรั่งๆ ว่า OM! Crush on Me ผลงานใหม่ล่าสุดจาก Mono Film ไงครับ
ด้วยการนำพระเอกชื่อก้องอย่าง จิรายุ ตั้งศรีสุข มาประกบกับนางเอกขวัญใจคนใหม่อย่าง เมลดา สุศรี พ่วงด้วยดาราวัยรุ่นมากมาย น่าจะทำให้หนังทำรายได้ดี บวกกับหยิบจับเอาประวัติศาสตร์ชาติไทยสมัยอโยธยามาผูกเรื่องราวในเชิงโรแมนติกเข้าไป จึงดูน่าสนใจไม่น้อย เลยต้องขอเข้าไปดูหน่อย อยากรู้ว่าจะเป็นเช่นใด อโยธยา มหาละลวย เต็มเรื่อง
เรื่องราวที่เคยถูกบอกเล่าในยุคสมัยแห่งการผลัดเปลี่ยนรัชสมัย ชาวต่างชาติเข้ามา บ้างค้าขาย บ้างกลายเป็นขุนน้ำขุนนาง หลังผลัดเปลี่ยนราชวงศ์ใหม่ อโยธยาตกอยู่ในความวุ่นวาย เกิดการกวาดต้อนและสังหารคนจากราชวงศ์เก่า คนญี่ปุ่นที่อยู่ในไทยอย่าง ยามาดะ นางามะซะ ก็เช่นกัน ครั้งนั้นผู้ที่สังหารเขาก็คือ ออกญาคชบาล (บิ๊ก ศรุต วิจิตรานนท์)
รีวิวหนัง อโยธยา มหาละลวย หนังไทย
มีเด็กชายเชื้อสายญี่ปุ่นคนหนึ่งที่เหลือรอด เขาเติบโตขึ้นมาเป็น เรียว (เจมส์ จิรายุ ตั้งศรีสุข) ได้หลวงปู่ผู้เป็นพระอาจารย์ของออกญาคชบาลเลี้ยงดูจนเติบใหญ่ มีความเชี่ยวชาญทางชั้นเชิงการต่อสู้และคาถาอาคม ต้องการออกตามค้นหาชาติกำเนิดตน ระหว่างนั้นเขาก็ได้พบรักกับสาวสวย ออสายสร้อย (โบว์ เมลดา สุศรี) ความรักมันแน่นอกยกไม่ไหว เลยต้องออกตามหาทั้งนางและแม่ในคราวเดียวกัน อโยธยามหาละลวย นักแสดง
ในที่สุด เขาก็ได้รู้ข่าวว่าออสร้อยยามนี้เป็นนักร้องตัวท็อปในโรงชำเราของเจ๊เกียว แต่เมื่อไปถึงกลับได้พบว่า ความงามของเธอทำให้มีชายหนุ่มชายผู้สูงศักดิ์หมายปอง เขาคือ ขวัญ (ภีม ธนบดี) ลูกชายของออกญาคชบาล ชายคนนี้เพียบพร้อมทั้งอำนาจ บริวาร ศิลปะการต่อสู้และมนต์อาคม ครั้งนี้ เรียวจึงต้องต่อสู้เพื่อหญิงที่รักและค้นหาชาติกำเนิดตนไปพร้อมกัน
ดูหนังฟรี เซ็ตตัวเองในยุคสมัยอโยธยาที่กำลังอยู่ในช่วงเปลี่ยนผ่านสู่รัชสมัยใหม่ ทั้งเปลี่ยนสู่ราชวงศ์ใหม่ บ้านเมืองลุกเป็นไฟด้วยการฆ่าล้างโคตร ซึ่งนั่นเป็นสาเหตุให้เรียว หรือเรียวสึ ต้องกำพร้าพ่อที่เป็นคนญี่ปุ่น สายเลือดยามาดะคนสุดท้ายที่ถูกขอชีวิตไว้และถูกเลี้ยงดูพร้อมถ่ายทอดวิชาทั้งคาถาและการต่อสู้ เริ่มต้นเรื่องดูน่าสนใจ อิงไปกับเหตุการณ์จริง ตัวละครหลายตัวมีชีวิตอยู่ในพงศาวดารเอกสารประวัติศาสตร์
รีวิวหนัง อโยธยา มหาละลวย หนังใหม่
สิ่งที่หนังเติมต่อเพื่อเล่าเรื่องในเชิงโรแมนซ์ ก็คงเป็นการเซ็ตสร้างโรงชำเราที่ดำเนินการโดยเจ้เกียวขึ้นมา และมีตัวละครสำคัญในนั้น เป็นหญิงสาวที่งดงามที่สุดในสถานประกอบการ นั่นคือ ออสร้อย (หรือชื่อเต็มคือ ออสายสร้อย) ผู้เป็นทั้งนางระบำและนักร้องตัวท็อป หญิงสาวผู้เป็นยอดรักของเรียวสึ เธอมีเพื่อนสนิทเป็น อออิน ผู้โดดเด่นในเชิงการดนตรี
ช่วงแรกของหนังภาพดูมืดมากจนต้องหรี่ตาดู แถม รีวิวหนังไทย หนังเล่าเรื่องอย่างขาดๆ เกินๆ มีบางช่วงที่ย้วยไปย้วยมา โดยเฉพาะฉากภายในโรงชำเราที่พยายามจะทำเหมือนละครเวทีสักเรื่อง มีร้องรำทำเพลงเหมือนจะอิงว่าคนอโยธยามีความเจ้าบทเจ้ากลอน แต่ก็ทำให้โทนหนังดูแหวกแตกต่างจากส่วนที่เหลือไปโดยปริยาย
อโยธยามหาละลวย ดูได้ที่ไหน เป็นเรื่องราวของ เรียวสึ ชายหนุ่มที่มีความเป็นมาคลุมเครือ เขาได้รับการเลี้ยงดูโดยหลวงตา ซึ่งสอนให้เขาได้เรียนรู้วิชาการต่อสู้ และเวทมนตร์คาถา เพื่อใช้ป้องกันตัวในวันข้างหน้า ในวันที่เขาต้องการตามหาแม่ และตามหานางในดวงใจ
ออสายสร้อย หลวงตาได้มอบหมายให้ ทอง เดินทางไปพร้อมกันเพื่อคอยดูแลกันและกัน ระหว่างการเดินทางพวกเขา ตกกระไดพลอยโจนต้องช่วย 2 คู่หู อาซิม และ จีนล้ง ที่ก่อเรื่องไว้ที่โรงชำเราชาย ที่นี่เองทำให้ เรียวสึ ได้พบกับ ออสร้อย อีกครั้ง
หนังรักไทยสไตล์ย้อนยุค
แต่ทว่า ด้วยความงามของ ออสร้อย เป็นที่ต้องตาของ ขวัญ ซึ่งเป็นบุตรชายของออกญาคชบาล ซึ่งเป็นผู้มีอำนาจมากที่สุดในอโยธยา ทำให้เรียวสึพยายามทำทุกทาง เพื่อชิงตัวออสร้อยคืนมา วิทยายุทธที่ เรียวสึ สั่งสมมา อาจไม่เพียงพอ บางครั้งอาจต้องพึ่งพามนตร์คาถาที่เรียวสึเรียนรู้ทั้งชีวิต เพื่อจะช่วงชิงตัวและหัวใจออสร้อย กลับมาเป็นของเขาได้อีกครั้ง
ในที่สุดแล้ว อโยธยามหาละลวย ฟรี ก็ยังคงเผชิญหน้ากับปัญหาเดิมๆ ของหนังไทยที่ประสบกันอยู่แทบจะทุกเรื่อง หลายองค์ประกอบของหนังที่ยังทำได้ไม่ถึง ออกมากลายเป็นหนังที่ไปได้ไม่สุดสักทาง ถึงแม้ว่าคอนเซ็ปต์ของหนังค่อนข้างน่าสนใจ พร้อมกับปูเรื่องเชิงประวัติศาสตร์ได้อย่างใคร่รู้ แต่เมื่อนำมาร้อยเรียงและถ่ายทอดออกเป็นหนังเกือบ 2 ชั่วโมง มันกลายเป็นเพียงหนังที่มีรสชาติจืดชืด ที่พอกินได้แต่ไม่ค่อยอร่อยเลย
บท รีวิวหนังไทยน่าดู หนังยังคงเป็นปัญหาหนักของหนังเรื่องนี้ โครงเรื่องวางเอาไว้ได้ค่อนข้างน่าสนใจทีเดียว ถึงจะมีเนื้อหาจริงๆ อยู่เพียงหยิบมือเดียว แต่ด้วยบทที่ค่อนข้างอ่อนเป็นทุนเดิม มาผนวกกับการร้อยเรียงเล่าเรื่องแบบตัดแปะไปตลอดทาง
จึงทำให้ อโยธยา มหาละลวย แทบจะไม่มีอะไรให้น่าจดจำสักเท่าไหร่ การเล่าเรื่องของหนังค่อนข้างแบบราบ ปูเรื่องได้ค่อนข้างเชยและช้า หนังฉายผ่านไปจะเป็นชั่วโมงก็รู้สึกเหมือนกับเคลื่อนที่ไปได้แค่เพียงเล็กน้อยเท่านั้น และที่ชวนสะพรึงที่สุดก็คือฉากต่อเพลงกัน ส่วนตัวคิดว่าถ้าหากว่าไม่มีก็น่าจะดีกว่า
ลองไปติดตามรับชมกันดูได้เลย
และเมื่อดูหนังจนจบลงแล้ว ก็ได้พบว่าคอนเซ็ปต์ที่ดีของหนังมีเนื้อหาอยู่เพียงนิดเดียว กลายเป็นว่านี่คือเมนูอาหารที่ใส่น้ำมาเสียเยอะ แต่ให้ปริมาณชิ้นเนื้อมาเพียงหยิบมือ อีกทั้งทิศทางของหนังก็ดูช่างสับสน เพราะรู้ว่าหนังจะอยากเป็นอะไร อยากจะเป็นหนังรักก็อยาก อยากจะเป็นหนังตลกก็ยิงมุก อยากจะเป็นหนังบู๊ก็ใส่ฉากสู้กันแบบจังหวะแห้งๆ เข้ามาแบบดาดดื่นเหลือเกิน
อีกหนึ่งสิ่งที่รู้สึกเสียดายในตัวหนัง อโยธยามหาละลวย netflix เป็นอย่างมากก็คือ การใช้คาแรกเตอร์ตัวละครของเรื่องได้ว่าไม่คุ้มค่า ต้องยอมรับว่าหนังได้นักแสดงและมีตัวละครน่าสนใจเยอะมาก แต่กลับล้มเหลวในการนำเสนอทั้งหมด บทหนังที่ไม่ได้มีการส่งเสริมสักคาแรกเตอร์เดียว อารมณ์เหมือนดูละครที่ยังไม่รีบขับเสน่ห์ตัวละครออกมาใช่ โดยที่อาจจะลืมไปว่านี่เป็นหนัง ที่มีเวลาจำกัดในการนำเสนอ
ด้วยความล้มเหลวในการผลักดันตัวละครต่างๆ จึงส่งทำให้การแสดงของทีมนักแสดงในหนังเรื่องนี้ก็ไม่ได้มีความโดดเด่นอะไรออกมาเลย จะมีก็เพียงแค่รุ่นใหญ่ “บิ๊ก ศรุต” กับ “ครูน้ำมนต์ ธีรนัยน์” ที่ใช้ความเป็นมืออาชีพเล่นใหญ่โดดกว่ารุ่นเด็กๆ อย่างเห็นได้ชัด “โบว์ เมลดา” ดูเหมือนจะเป็นคนที่เข้าถึงตัวละครและเล่นลื่นไหลได้ดีกว่าใครๆ แม้ว่าเรื่องนี้จะยังไม่ใช่ผลงานที่ดีที่สุดของเธอ
โดยภาพรวมแล้ว อโยธยามหาละลวย ย้อนหลัง ถือว่าเป็นหนังที่ค่อนข้างน่าผิดหวัง ได้แคสติ้งนักแสดงที่ดี แต่ปัญหาหลักอย่างบทหนังยังคอยฉุดรั้งหนังทั้งเรื่องเอาไว้ได้อย่างเสียดาย ความไม่ชัดเจนในการเล่าเรื่อง อยากจะเป็นหนังรักก็เป็น อยากเป็นหนังบู๊ก็เป็น
เมื่อนำมาผสมรวมกันแล้วว่า อโยธยา มหาละลวย pantip จึงเป็นเพียงหนังพีเรียดที่หยิบเอาความเป็นละครในหลายเรื่องๆ มายำเอาไว้ ถึงจะพยายามชูคอนเซ็ปต์ในเรื่องคาถาความเชื่อต่างๆ แต่ก็ใส่เข้ามาแบบไม่ได้เน้นจริงจังอะไร จึงทำให้หลายๆ อย่างในหนังเรื่องนี้ยังโคลงเคลงไปมาตลอดทางที่ลัดเลาะริมฝั่ง
ประเด็นความรักและคาถาก็ดูจะไม่ถูกบอกเล่าอย่างมีนัยสำคัญ มองเห็นความพยายามในการสร้างเรื่องอิงประวัติศาสตร์ การสร้างฉากเพื่อจำลองภาพของโลกในยุคนั้น ดูจากพล็อตหนังก็เหมือนจะเข้มข้น แต่เมื่อได้ชมจริงก็พบว่าการเล่าเรื่องดูธรรมดาเกินไป
ประเด็นของความรักที่มีตัวเลือกระหว่างการใช้มนต์คาถากับความรักที่เกิดจากใจจริงก็ยังไม่ค่อยจะหนักแน่นเท่าใดนัก แม้กระทั่งฉากจบดูจะลงเอยง่ายดายไปเสียหมด ทำให้ความประทับใจในหนังเหลืออยู่เพียงการใช้เสน่ห์และเคมีของพระนาง
นอกเหนือจากนี้ รีวิวหนังไทยน่าสนใจ ก็ยังมีดีอยู่ ไม่ว่าจะเป็น CG ที่ค่อนข้างดีพอสมควรมาช่วยในการเล่าเรื่อง งานเซ็ตฉากจะดูดีในฉากกลางแจ้งเสียเป็นส่วนใหญ่ ฉากต่อสู้ก็พอจะถือว่าทำได้ดี เสียแค่มุมกล้องยังดูธรรมดาเกินไป ลงท้ายจึงกลายเป็นว่าค่อนข้างผิดหวังกับหนังไทยเรื่องนี้
รายละเอียดเกี่ยวกับหนัง
ชื่อภาพยนตร์ อโยธยา มหาละลวย / OM! Crush on Me
ผู้กำกับ ใหม่ ภวัต พนังคศิริ (ผู้กำกับหนัง นาคปรก, ละคร บุพเพสันนิวาส, ลิขิตรักข้ามดวงดาว)
ผู้เขียนบท
นักแสดง เจมส์ จิรายุ ตั้งศรีสุข, โบว์ เมลดา สุศรี, เกรท สพล, ภีม ธนบดี, ฟลุ๊คจ์ – พงศภัทร์, โมสต์ วิศรุต, ฟลุ๊ค พงศกร, นิวตั้น ปัณณภัสร์, เกรก เกรเกอร์, โดม เพชรธำรงชัย, บิ๊ก ศรุต วิจิตรานนท์
แนว/ประเภท Action, Romance
เรท
ความยาว 119 นาที
ปี 2021
ประเทศ ไทย
เข้าฉายในไทย 2 ธันวาคม 2021
ผู้ผลิต/ผู้จัดจำหน่าย Mono Film
อโยธยา มหาละลวย